แมวจอมขี้เกียจเห็นทาสออกกำลังกาย เดินมานั่งข้าง ๆ ไม่ได้มาให้กำลังใจนะ แต่มาตัดกำลังใจต่างหาก

คอมเมนต์:

ออกไปก็เท่านั้น เดี๋ยวก็กลับมาอ้วนเหมือนเดิม เชื่อแมวสิ แมวลองมาแล้ว~

    หลายคนมักจะแสดงความเป็นห่วงทุกครั้งเมื่อเห็นว่าน้องเหมียวบางตัวมีรูปร่างอ้วนกลม แนะนำให้เจ้าของคุมอาหารและพาน้องออกไปเดินเล่น ออกกำลังกายเพื่อลดน้ำหนักตัว แต่สำหรับเจ้านายบางตัวการออกกำลังกายเป็นสิ่งสุดท้ายที่พวกมันคิดจะทำ ถึงแม้ว่าทาสจะพยายามโน้มน้าวหรือทำโชว์ให้ดูสักเท่าไหร่ก็ไม่เป็นผล แถมยังทำหน้าตาเอือมระอา ราวกับอยากจะบอกว่า "เดี๋ยวกินข้าวก็กลับมาอ้วนเหมือนเดิม เหนื่อยเปล่า ๆน่าาา"

    ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า Piyapon Supap เองก็พบเจอประสบการณ์คล้าย ๆ กัน โดยที่บ้านได้เลี้ยงแมวอยู่ 1 ตัว ซึ่งตัวของมันใหญ่และอ้วนกลมกว่าแมวทั่วไปมากโข 

 

Sponsored Ad

 

อีกนิดจะตัวเท่าทาสแล้ววววววว

    ซึ่งวันนี้เองก็เป็นวันที่ทาสหยิบอุปกรณ์ออกมาเตรียมพร้อมสำหรับการออกกำลังกาย หวังจะมีสุขภาพแข็งแรง มีรูปร่างที่ดูดี ซึ่งเจ้าเหมียวก็เดินมาและนั่งดูอยู่ข้าง ๆ 

 

Sponsored Ad

 

    หน้าตาดูเหมือนไม่ได้มาให้กำลังใจเลยสักนิด เหมือนมาตัดกำลังใจซะมากกว่า เพราะหน้าตาของมันดูเบื่อหน่ายแถมยังแสดงความขี้เกียจออกมาอย่างเห็นได้ชัด

นางทาสจะออกกำลังกายใช่ไหม ทำไปก็ไม่เห็นผลหรอก เหนื่อยเปล่าๆน่าา 

 

Sponsored Ad

 

    ชาวเน็ตบางรายเห็นขนาดตัวของน้องถึงกับตกใจขออนุญาตถามถึงน้ำหนักตัวน้อง ซึ่งเธอก็ได้ตอบกลับไปว่า "ตอนนี้น้องมีน้ำหนัก 11 กิโลกรัม และมันไม่ดีต่อสุขภาพน้องในอนาคต ซึ่งตนเองก็พยายามลดน้ำหนักให้น้องอยู่ แต่ตอนนี้ยังทำไม่ได้" 

 

Sponsored Ad

 

แต่เห็นอย่างงี้วิ่งไล่จับแมลงวันได้อยู่นะฮะ

    เธอยังได้บอกเพิ่มเติมอีกว่า เคยปรึกษาคุณหมอแล้ว ถึงเรื่องขนาดตัวของน้อง ซึ่งคุณหมอก็บอกว่า อาจจะเป็นที่ฮอร์โมน พอน้องอ้วนน้องก็ขี้เกียจ และปัญหาที่ตามมาคือท้องผูก น่าสงสาร และเลียตูดก็ไม่ถึง ทาสต้องคอยเช็ดให้ทุกวัน

 

Sponsored Ad

 

    นอกจากนี้ด้านชาวเน็ตจำนวนมากก็ได้เข้ามาคอมเมนต์แซวกันอย่างขำขันบอกว่า "อยากจกพุงน้องจัง คงจะนิ่มน่าดู", "ออกไปทาสเล้าอ้วนคนเดียวก็พอแล้ว"

    ต่อมาคุณแม่ก็ได้มาเฉลยในคอมเมนต์ว่า จริง ๆ น้องไม่ได้มานั่งให้กำลังใจอะไรทั้งนั้น แต่มารอแม่ออกกำลังกายเสร็จและจะได้ไปเทอาหารให้มันกินเท่านั้นเอง เรียกง่าย ๆ ว่า มานั่งกดดัน นั่นแหละ

ที่มา : Piyapon Supap

บทความแนะนำ More +

บทความที่คุณอาจสนใจ