จากสถานการณ์ในปัจจุบันที่ทั่วโลกกำลังเจออยู่นั้น ไม่มีทีว่าจะดีขึ้น หลายประเทศเริ่มกลับมาให้ทำงานที่บ้านและปิดประเทศมากขึ้น อีกหนึ่งอาชีพที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดก็คือคุณหมอและทีมงานแพทย์ทั้งหมด... แน่นอนว่าการทำงานของคุณหมอและทีมงานนั้น หลายคนต้องอดหลับอดนอน หลายคนต้องยอมสละเวลาส่วนตัว มาดูแลผู้คนในประเทศที่ต้องการความช่วยเหลือ จนส่งผลให้แทบไม่พักผ่อนและมีเวลาไปทำธุระส่วนตัว

    เช่นเดียวกับนักศึกษาพยาบาลที่ฝึกงานในโรงพยาลแห่งหนึ่งของอิยิปต์ ถึงแม้จะเป็นแค่นักศึกษาฝึกงาน แต่เขาก็ช่วยเหลือทุกคนอย่างเต็มกำลังจนไม่มีเวลาได้นอน... โรงพยาบาลของเขาเต็มไปด้วยผู้คนมากมายที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ปัจจุบัน  จึงยากที่เหล่าคุณหมอและทีมงานได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ แม้ว่าจะมีเวลาพัก แต่ก็พักได้แค่เวลาสั้น ๆ เท่านั้น

    พอถึงช่วงเวลาพัก เขาก็เดินออกไปตากอากาศด้านนอก เพื่อให้ร่างกายได้ผ่อนคลาย และนั่งลงชิมวิวต้นไม้แถวนั้น แต่จู่ ๆ ก็มีแมวจรตัวสีส้มเดินมาคลอเคลีย

    เจ้าแมวจรตัวนี้แสนรู้มาก มันเข้ามาอ้อนพ่อหนุ่มนักศึกษาคนนี้ เหมือนกับกำลังส่งกำลังใจให้ เหมือนมันจะรู้ว่าเขาเหนื่อยจากการทำงานมากขนาดไหน... มันเดินเข้าไปหาแล้วก็จ้องหน้า พร้อมกับกระโดดขึ้นไปนั่งบนตัก ก่อนจะหลับไปบนหน้าท้องและอ้อมแขน...

    โดยทั่วไปแล้วในประเทศอิยิปต์ แมวจรจะไม่เข้าใกล้ผู้คน เพราะไม่มีใครต้องสุงสิงและเข้าใกล้มัน มันมักจะโดนไล่อย่างไร้เยื่อใยไมตรี แต่เจ้าแมวตัวนี้กลับเข้ามาหาเขาอย่างเป็นมิตร...

    เจ้าแมวจรตัวนี้นอนหลับปุ๋ยอยู่บนเขา 15-20 นาทีโดยไม่ลุกไปไหน พอมันตื่นมันก็ลุกมาจ้องหน้าและก็เดินจากไป ราวกับว่ามาช่วยเยียวยาจิตใจให้กับพ่อหนุ่มคนนี้เสร็จแล้ว หลังจากนั้นเขาก็เดินกลับเข้าไปทำงานต่ออย่างมีความสุข

    จากเหตุการณ์ในวันนั้น เขาก็ได้ให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อ เพราะเรื่องราวของเขาถูกพูดถึงในโลกออนไลน์ โดยเขาได้บอกว่า ตัวเขานั้นได้ทำงานวันละ 12 ชั่วโมง ติดต่อกัน 20 วันแล้ว เขาทั้งเหนื่อยและล้า แต่เจ้าแมวตัวนั้นกลับเป็นสิ่งที่มาช่วยเยียวยาจิตใจ และมอบกำลังให้สู้ต่อไป...

    เขาได้บอกอีกว่า ปกติเป็นคนไม่ได้เลี้ยงสัตว์เพราะตารางงานแน่นมาก และกลัวว่าจะไม่มีเวลาให้เท่าที่ควร ส่วนพบเจอเจ้าแมวส้มนั้นเป็นเรื่องบังเอิญในวันนั้น เพราะปกติแล้วไม่เคยเห็นมันอยู่แถวนี้

    เขาได้ทิ้งท้ายเอาไว้ว่า... “ทุกครั้งที่ผมพัก ผมจะรีบออกมานั่งที่นี่ แล้วมองหามัน เผื่อว่าวันนึงผมจะได้เจอมันอีก...”  

ที่มา : 9GAG, The Dodo