ผู้บริหารไอศกรีม ตั้งราคาไม่ง้อลูกค้า ขายแท่งละ 330 บาท พูดกลางสัมภาษณ์ ไม่ซื้อก็ได้แล้วแต่เลย

คอมเมนต์:

สรุปดราม่า ไอศกรีมราคาแท่งละ 330 บาท ผู้บริหารลั่นกลางสัมภาษณ์ แล้วแต่เลยว่าจะซื้อกินไหม เจอชาวเน็ตสวดยับ!

        เป็นอีกหนึ่งประเด็นที่ถูกพูดถึงเป็นอย่างมากในโลกโซเชียลในต่างประเทศ สำหรับกรณีของไอศกรีมแบรนด์ชื่อดังในประเทศจีนอย่าง จงเสว่เกา (Zhong Xuegao)

        สำหรับไอศกรีมแบรนด์ จงเสว่เกา (Zhong Xuegao) นี้เปิดตัวมาได้เพียง 3 ปี แต่กลับแย่งส่วนแบ่งการตลาดจากไอศกรีมแบรนด์อื่น ๆ เรียกได้ว่าเป็นน้องใหม่มาแรงที่ถูกจับตามองมากที่สุดแบรนด์หนึ่งเลยก็ว่าได้ 

 

Sponsored Ad

 

        แต่แล้วประเด็นดราม่าอันร้อนแรงก็ได้เกิดขึ้นหลังจากที่ "หลินเซิ้ง" ( Lin Sheng) ผู้ก่อตั้งไอศกรีมแบรนด์ดังกล่าวได้พูดถึงผลิตภัณฑ์ตัวหนึ่งของแบรนด์ ว่าเป็นไอศกรีมระดับพรีเมียม โดยตั้งราคาจำหน่ายไว้ที่ 66 หยวน (หรือราว 330 บาท) ซึ่งราคานี้เป็นไอศกรีมที่แพงสุดของแบรนด์

 

Sponsored Ad

 

        นอกจากนี้ทางผู้ก่อตั้งได้พูดถึงราคาของไอศกรีมรุ่นดังกล่าวว่า "ก็ตั้งราคาไว้แล้ว แล้วแต่เลยว่าคุณจะซื้อหรือไม่ซื้อก็ได้"

        ซึ่งคำสัมภาษณ์ดังกล่าวได้ทำให้ชาวเน็ตจีนต่างไม่พอใจ ชาวเน็ตจำนวนมากต่างมองว่าการที่ทางแบรนด์ออกมาพูดแบบนี้คือการไม่ง้อผู้บริโภค ทำให้ต่อมามีกระแสว่าจะไม่ซื้อไอศกรีมแบรนด์ดังกล่าว 

 

Sponsored Ad

 

        ทำให้ต่อมาทางบริษัทได้ออกมาอธิบายว่า คลิปสัมภาษณ์เป็นคลิปที่ถูกตัดมาจนทำให้เกิดความเข้าใจผิด ก่อนจะมีการปล่อยคลิปฉบับเต็มออกมา เผยให้เห็นว่าที่มาของราคา 66 หยวน (หรือราว 330 บาท) นั้นไม่ได้ตั้งขึ้นอย่างไร้เหตุผล แต่ไอศกรีมรุ่นนี้เป็นไอศกรีมคุณภาพ ที่มีค่าวัตถุดิบสูงตกแท่งละ 40 หยวน (หรือราว 195 บาท) แล้ว อีกทั้งยังเป็นสินค้าลิมิเต็ดในช่วงเวลาจำกัด มีจำหน่ายเพียงแค่ 20,000 แท่ง

 

Sponsored Ad

 

        แต่คำอธิบายของบริษัทก็เหมือนไม่ได้ทำให้ชาวเน็ตเปลี่ยนความคิดได้ อีกทั้งยังทำให้เรื่องถึงหน่วยงานของรัฐต้องเข้าไปตรวจสอบ จนได้ข้อสรุปว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนับเป็นการโฆษณาชวนเชื่อที่ผิดพลาด อีกทั้งยังพบว่าทางแบรนด์ได้มีการใช้คำโฆษณาเกินจริง

        โดยในที่สุดทางบริษัทแบรนด์ไอศกรีมดังกล่าวก็ได้ออกมาเผยแถลงการณ์ขอโทษแล้ว 

 

Sponsored Ad

 

        อย่างไรก็ตามก็ต้องมาตามดูกันต่อไปในอนาคตว่ายอดขายของไอศกรีมแบรนด์นี้จะมีทิศทางเป็นอย่างไร และจะได้รับผลกระทบมากน้อยเพียงใดจากเหตุการณ์ในครั้งนี้

ที่มา : sohu

บทความที่คุณอาจสนใจ