"เหมียวส้มอ้วนตุ้ย" หนักถึง 18 กก. จนหมอช่วยลดหุ่นนาน 2 ปีสุดท้ายกลายเป็นแบบนี้?

คอมเมนต์:

อ้วนดีจังเลยนะเหมียวส้ม แมวบ้านไหนเป็นแบบนี้บ้าง??

หมายเหตุ : สามารถรับชมคลิปเต็มได้ที่ด้านล่างบทความค่ะ 

    แอดเชื่อว่ามีหลายคนคงชอบ "แมวอ้วน" เพราะว่ามันดูน่ารัก น่ากอด แต่จริงๆแล้วพวกมันก็เหมือนกับมนุษย์ที่พออ้วนมากๆก็จะเสี่ยงต่อการเป็นโรคได้ง่าย อีกทั้งร่างกายยังไม่ได้ออกกำลังกาย (เพราะว่าหนักเกินไปนั้นแหละ) จึงทำให้สุขภาพย่ำแย่ลงไปอีก

    เจ้าเหมียวส้มที่ถูกเจ้าของเก่าทอดทิ้งไว้ในบ้านเพียงลำพัง จนกระทั่งมีคนไปพบและส่งให้ศูนย์พักพิงสัตว์ริชาร์ดสัด เมืองแดลลัส ในรัฐเท็กซัส 

 

Sponsored Ad

 

    ทำให้เจ้าหน้าที่ในศูนย์พักพิงสัตว์ถึงกับตกใจเพราะมันตัวกลมเหมือนกับลูกบอล เพราะมันมีน้ำหนักตัวมากถึง 18.5 กิโลกรัม

    สภาพร่างกายของมันในตอนนั้นอ้วนมาก และไม่ยอมทำอะไรเลย มันนอนตลอดทั้งวัน มันไม่ชอบเล่น การเดินของมันแต่ละครั้งจะไม่เกิน 2 เมตร และมันก็จะล้มตัวลงนอนจนกว่าจะถึงเวลากินข้าว

 

Sponsored Ad

 

    เจ้าหน้าที่ทุกคนมีความกังวลเกี่ยวกับสุขภาพร่างกายของมัน เพราะน้ำหนักขนาดนี้มันจะต้องมีปัญหาแน่นอน และผลจากการตรวจร่างกายมันก็เป็นเบาหวานไปซะแล้ว

    เจ้าหน้าที่ศูนย์พักพิงสัตว์ทุกคนรักมัน แต่ไม่สามารถจะดูแลต่อไปได้ เพราะต้องอาศัยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญคอยดูแลอย่างใกล้ชิด ดังนั้นมันจึงถูกส่งตัวไปโรงพยาบาลสัตว์และเริ่มเข้าโปรแกรมลดน้ำหนัก

 

Sponsored Ad

 

    ดร.บริททานี บาร์ตันได้ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ คุณหมอเริ่มด้วยการควบคุมอาหารเพราะเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด

 

Sponsored Ad

 

    คุณหมอตั้งชื่อให้เจ้าเหมียวว่า "สกินนี่" (Skinny) และหลังจากครึ่งปีผ่านไป น้ำหนักของมันก็ลดลงราว 3 กิโลกรัม ซึ่งอาจจะเห็นว่ามันยังอ้วนอยู่ แต่เมื่อเทียบกับตอนแรกแล้วจะเห็นว่ามันผอมลงจริงๆ

    หลังจากที่การควบคุมปริมาณและสารอาหารได้ผลเป็นอย่างดี ในตอนนี้เจ้าสกินนี่ก็พร้อมที่จะออกกำลังกายแล้ว คุณหมอจึงจัดโปรแกรมลดน้ำหนักด้วยการออกกำลังกายต่างๆ ไม่ว่าจะการวิ่งบนลู่โดยใช้อาหารหลอกล่อ หรือว่าการซิทอัพ

 

Sponsored Ad

 

    อย่างไรก็ตามเจ้าสกินนี่ก็ดูไม่มีความสุขกับการลดน้ำหนักเอาซะเลย ดังนั้นคุณหมอจึงต้องหาแมวมาเล่นเป็นเพื่อน ซึ่งทำให้สกินนี่มีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้น ถือว่าเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ได้ผลมากๆ

 

Sponsored Ad

 

    อย่างไรก็ตามคุณหมอก็กังวลเกี่ยวกับข้อต่อและกระดูกของสกินนี่ไม่น้อย เพราะว่ามันมีน้ำหนักมาก ดังนั้นเธอจึงเตรียมทางวิ่งใต้น้ำและปรับอุณหภูมิน้ำให้คงที่ บอกเลยว่าคุณหมอจริงจังกับงานนี้สุดๆ

    และด้วยวิธีเหล่านี้ทำให้ปีแรก สกินนี่มีน้ำหนักลดลงไปถึง 6 กิโลกรัม หรือว่าหายไป 1 ใน 3 เลยทีเดียว ก่อนที่ปีที่สองจะหายไปอีก 4 กิโลกรัม จนกระทั่งตอนนี้มันมีน้ำหนักเพียง 8.5 กิโลกรัมเท่านั้น

    การลดน้ำหนักประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี ในวันแรกมันเดินได้เพียง 2 เมตรเท่านั้น แต่ตอนนี้มันสามารถที่จะกระโดดขึ้นโซฟาหรือเดินเล่นไปรอบบ้านได้อย่างสบายใจ ในตอนแรกคุณหมอไม่ได้ตั้งใจจะรับเลี้ยงไว้เอง แต่ด้วยความผูกพันทำให้เธอรับเลี้ยงเจ้าสกินนี่ไว้เอง เพราะมันได้กลายเป็นหนึ่งในสมาชิกคนสำคัญของครอบครัวไปแล้ว

Sponsored Ad

    สำหรับใครที่ต้องการลดความอ้วนก็สามารถดูตัวแมวตัวนี้เพื่อสร้างแรงบันดาลใจก็ได้นะคะ....

    ชมคลิป

    คลิปเปิดไม่ออก >>>>> กดตรงนี้ คลิ๊ก !!!! <<<<<

ที่มา:petpetbase,dog-vs-cat

บทความแนะนำ More +

บทความที่คุณอาจสนใจ