หนุ่มฝังเจ้าแมวไว้หลังบ้าน หลังถูกรถชน รุ่งเช้ากลับพบว่ามันมานอนอยู่ตรงสวนหน้าบ้าน
คอมเมนต์:
เมื่อ 3 ปีก่อน Nathan Sonoras ได้พบกับ Loki แมวจรจัดสีดำ เขารู้สึกถูกชะตาก็เลยรับเลี้ยงไว้ คู่สนิทสนมกันอย่างรวดเร็ว และกลายเป็นเพื่อนที่ดีที่สุด
แต่เนื่องจาก Loki เป็นแมวจรจัดมาก่อน มันจึงชอบออกไปเที่ยวเล่นนอกบ้านเป็นประจำ และ Nathan ก็คิดว่าการปล่อยให้มันมีอิสระคือความสุขที่แท้จริงของมัน อีกอย่างถึงมันจะชอบออกไปเที่ยวข้างนอกมันก็ไม่ลืมที่จะกลับมาบ้านทุกวัน
Sponsored Ad
แต่ทว่าเรื่องน่าเศร้าก็เกิดขึ้น Nathanขับรถกลับบ้านในเวลากลางคืน และพบว่ามีวัตถุสีดำอยู่บนพื้นถนน ในตอนแรกเขานึกว่าหมวกไหมพรมตกอยู่ แต่เมื่อเข้าไปใกล้ก็พบว่าเป็นแมวดำ ในตอนนั้นความคิดที่เข้ามาในหัวเลยคือเจ้า Loki เพื่อนสนิทของเขานอนอยู่ตรงนั้น
Nathan วิ่งเข้าไปและอุ้มแมวตัวดังกล่าวขึ้นมาพร้อมน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม และพบว่ามันหยุดหายใจไปแล้ว เขารีบโทรหาแฟนสาวทันที พร้อมกับตรวจสอบที่เกิดเหตุ จึงสันนิษฐานได้ว่ามันถูกรถชน มันเป็นเรื่องไม่น่าเชื่อในตอนนั้น เขาจึงร้องไห้ออกมาด้วยความเสียใจที่เสียมันไป พร้อมกับพูดกับตัวเองว่า “Loki ได้จากฉันไปแล้ว”
Sponsored Ad
หลังจากนั้นเขาและแฟนสาวพาร่างเจ้าแมวกลับมาที่บ้าน แล้วช่วยกันฝังร่างของมันไว้ใกล้ๆ กับต้นไม้ในสวน พร้อมกับทำพิธีศพเล็กๆ ให้กับมัน
Nathan เล่าว่า “พวกเราร้องไห้หนักมาก แล้วก็พูดถึงช่วงเวลาดีๆ ที่มีมันอยู่ด้วย เราหวังว่า Loki จะได้วิ่งเล่นอย่างอิสระอยู่บนสวรรค์ของแมว มันเศร้ามากที่เราต้องบอกลามัน”
Sponsored Ad
นั่นคือจุดจบของความสัมพันธ์ของ Nathan กับเจ้า Loki หรืออย่างน้อยนั่นก็เป็นสิ่งที่ Nathan คิด
แต่ทว่าในเช้าวันต่อมา Nathan ต้องไปรับพ่อที่อยู่บ้านหลังตรงข้ามกันเพื่อส่งเขาไปทำงาน เขาบอกพ่อของเขาถึงการตายของเจ้า Loki และก็เล่าว่าเขาฝังมันไปเมื่อคืนนี้เอง
Sponsored Ad
แต่ระหว่างที่กำลังเล่าเรื่องให้พ่อฟังอยู่ เขาก็ได้ยินเสียงร้องเหมียวที่เหมือนของเจ้า Loki ไม่มีผิด และพอเขาหันหลังกลับมามอง เจ้าแมวก็นอนอยู่ตรงสวนหน้าบ้านของพ่อแล้ว!!
เขาตกใจมากที่มันโผล่มาโดยไม่คาดคิด เขามั่นใจว่าเขาฝังมันไปเมื่อคืนนี้เอง พ่อของเขาก็ตกใจเช่นกัน แต่พวกเขาก็ดีใจที่เห็นว่ามันยังปลอดภัยดีและได้อยู่กับเขาต่อ
Sponsored Ad
ตอนนี้ Nathan คิดว่าแมวที่ตายไปอาจจะไม่ใช่ Loki ก็ได้ เขาอาจจะเข้าใจผิดไปเองแล้วเอาแมวจรจัดตัวอื่นไปฝังไว้
หรือไม่เจ้าแมวก็อาจจะกลับมาเพราะมันเพิ่งเสีย 1 ใน 9 ชีวิตที่มีไปเท่านั้น แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลไหนมันก็เป็นเรื่องที่น่ายินดีทั้งนั้นแหละ
ที่มา : the dodo, catdumb
