เปิดชีวิต "เด็กบ้านนอก" จบกศน. เข็นรถขายส้มตำธรรมดาๆ ใช้เงินเก็บซื้อที่ดินสร้างรีสอร์ต 50 ไร่

คอมเมนต์:

ใครจะเชื่อว่า เด็กจบ กศน. ขายส้มตำรถเข็นธรรมดาๆ จะมีเงินเก็บไปซื้อที่ดินสร้างรีสอร์ตด้วยเงินสดถึง 50 ไร่ เขาคนนี้ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้ว!

    ชีวิตหลายคนไม่ได้มีต้นทุนเริ่มต้นให้มาก แต่ด้วยความมุมานะพยายาม และไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตาแล้ว เชื่อว่าวันหนึ่งจะต้องประสบความสำเร็จได้อย่างแน่นอน เหมือนอย่างเรื่องราวของ คุณโชฎึก คงสมของ เจ้าของร้านอาหารและรีสอร์ตเฮือนสวนดอนธรรม

    คุณโชฎึก จบการศึกษาระดับชั้นประถมเหมือนนักเรียนปกติ แต่ต้องไปต่อ กศน. จนจบ ม.ศ.5 เขาเป็นเพียงหนุ่มบ้านนอกเมืองกาฬสินธุ์ ที่ตัดสินใจเข้ามาหางานทำในกรุงเทพมหานคร ด้วยหวังจะให้สามารถลืมตาอ้าปากได้ ช่วงแรกเขามีเงินติดตัวไม่มาก ต้องอาศัยอยู่กับวัด จนได้มาสมัครงานกับการบินไทยเป็นตำแหน่งขนถ่ายสินค้า

 

Sponsored Ad

 

    หนุ่มกาฬสินธุ์คนนี้ยึดอาชีพในการบินไทยกว่า 25 ปี แม้จะได้เลื่อนตำแหน่ง แต่เงินเดือนก็ยังได้ไม่ถึงหมื่น ทำให้เขาตัดสินใจหารายได้พิเศษด้วยการเข็นรถขายส้มตำ เพราะไม่มีทุนจะไปเช่าบ้าน หรือเซ้งตึก เนื่องด้วยความที่คลุกคลีกับอาหารอีสานมาตั้งแต่ยังเด็ก ทำให้ส้มตำของเขาถูกปากคนจำนวนมาก และมีรายได้รวมมากกว่างานประจำ ทั้งๆ ที่ขายส้มตำเฉพาะเวลาเลิกงานและวันหยุดงานเท่านั้น

 

Sponsored Ad

 

    เมื่ออายุได้ 55 ปี คุณโชฎึกใช้เงินเก็บเปิดร้านขายส้มตำถึง 2 ร้าน เขาลาออกจากการเป็นพนักงานขนสินค้าการบินไทย มาขายส้มตำเต็มตัว แต่ก็มีความคิดอยากจะกลับบ้านเกิด เนื่องจากมองอนาคตว่า กลับบ้านเกิดไปทำอาชีพน่าจะดีกว่า

    คุณโชฎึก ใช้เงินเก็บที่สะสมมาทั้งชีวิต หาซื้อที่ดินเพื่อดำเนินชีวิตตามกระแสพระราชดำรัส การเกษตรแบบพอเพียงของในหลวง และสามารถซื้อได้ด้วยเงินสด จำนวนกว่า 50 ไร่

    เมื่อได้ที่ดินมาแล้ว เขาก็ได้พัฒนาที่ดินโดนการถมที่นาให้สูงขึ้น ขุดสระเลี้ยงปลา ปลูกไม้ยืนต้นและปลูกผัก ทั้งผักทั่วไปและผักสวนครัว ซึ่งเขาวางแผนว่าในอีก 20-30 ปีข้างหน้า เหล่าไม้ยืนต้นสามารถทำเงินให้เขาได้ถึงหลายล้านบาทเลยทีเดียว

 

Sponsored Ad

 

.

    นอกจากจะปลูกผักสวนครัว ทำกินในบ้าน คุณโชฎึกยังมองการณ์ไกล สร้างรีสอร์ตให้คนมาเยี่ยมชมสวนเกษตรพอเพียง พร้อมกับเปิดร้านอาหารชื่อ ร้านคาวบอยลาว เพื่อบริการนักท่องเที่ยวที่มาพัก แต่เมื่อเปิดร้านจริงๆ ก็มีผู้ที่แวะเวียนเข้ามารับประทานอาหารมากมาย ด้วยฝีมือของการทำอาหารที่อร่อยจนบอกต่อปากต่อปาก

    ขณะที่เขาทำงานอยู่บนที่ดินรีสอร์ตที่บ้านเกิด แต่ร้านส้มตำที่กรุงเทพฯ เขาก็ยังได้มอบหมายให้ญาติและคนสนิทไปดูแล เพื่อเป็นรายได้ประจำอีกทางหนึ่งด้วย

 

Sponsored Ad

 

.

    เพียง 10 กว่าปี คุณโชฎึกใช้เวลาทำงานตามความฝัน เขามีบ้านพัก 20 กว่าหลัง จุคนได้เป็นร้อย ในรีสอร์ตกว่า 50 ไร่ นอกจากนี้ยังมีคนติดต่อเพื่อเข้าชมวิธีการทำนา ปลูกต้นไม้ ปลูกผัก และอื่นๆ ตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง ที่มีวันนี้ได้ ก็เพราะความพยายามที่ไม่เคยย้อท้อ กลายเป็นแรงบันดาลใจให้คนรุ่นหลัง

.

.

ที่มา : komchadluek

บทความที่คุณอาจสนใจ