"เก้า จิรายุ" เล่าชีวิตครั้งนึงทำแม่น้อยใจ จนแม่หนีออกจากบ้าน รู้สึกผิดจนต้องโทรไปตาม

คอมเมนต์:

คุณแม่เป็นซิงเกิ้ลมัมที่แกร่งและเก่งมาก ๆ

    เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งนักแสดงที่ทำงานในวงการบันเทิงตั้งแต่เด็กเลย สำหรับ "เก้า-จิรายุ ละอองมณี" ที่ได้มาเปิดใจชีวิตเบื้องหลังว่ากว่าจะมีวันนี้ไม่ง่ายเลย ทุกวันนี้ชีวิตได้ดีก็เพราะมีคุณแม่ก้อยคอยอยู่เบื้องหลัง เป็นทั้งแรงผลักดันและกำลังใจที่ดี พร้อมทั้งนี้ เก้า-จิรายุ  ยังได้เปิดเคยทะเลาะกัน จนแม่น้อยใจหนีออกจากบ้าน ก่อนจะมีการง้องอนกันแบบข้ามจังหวัด

    เก้าได้เล่าให้ฟังว่า เวลาตนคบใครหรือตกลงเป็นแฟนกับใคร ก็จะพามาแนะนำให้แม่รู้จัก เพราะสนิทกับแม่ตั้งแต่เด็ก พูดคุยกันได้ทุกเรื่อง 

 

Sponsored Ad

 

    แม้กระทั่งเรื่องที่แม่ตัดสินใจจะสัก แม่ก็เดินมาหาเก้าแล้วบอกว่า สักลายมังกรที่หลังดีไหม แต่หลังจากที่พูดคุยปรึกษากัน สุดท้ายแม่ก็ตัดสินใจไปสักรูปของเก้า เหตุผลที่แม่เลือกสักรูปของเก้าไว้เพราะ แม่รู้สึกว่าลูกชายคือรักแท้ และเขาจะอยู่กับเราตลอดไป ก็เลยตัดสินใจเป็นรูปของเก้าตอนที่เล่นกีต้าร์แทน

    แม่ก้อยได้เปิดใจว่า สำหรับแม่รู้สึกว่าความสำเร็จของลูกมันได้มาแปบฟลุ๊ค ๆ ตอนเก้าอายุ 1 ขวบ ก็ได้งานถ่ายโฆษณาชิ้นแรกแบบบังเอิญ เพราะวันนั้นพาลูกของเพื่อนอีกคนไปเพื่อถ่ายรูป แล้วเก้าก็ไปแบบหัวฟู ๆ เลย แล้วช่างภาพเขาขอถ่ายรูปเก้าเอาไว้ หลังจากนั้นเขาก็ติดต่อมาให้ไปถ่ายงาน

 

Sponsored Ad

 

    แม่ไม่เคยคิดเลยว่าวันนึงลูกจะเป็นดาราดัง ไม่เคยคิดเลย แค่รู้สึกว่าเราไม่ได้รวย ถ้ามีรายได้ส่วนหนึ่งจากงานโฆษณาก็โอเคนะ ก็เลยลองรับงานไป แถมเก้าเขาก็เก่งมาก เพราะตัวของเขาเลย เขาเป็นเด็กมีพรสวรรค์

    ช่วงแรก ๆ ที่รับงานให้ลูก แม้ว่าจะได้เงินเยอะแต่ถ้าบทไม่น่าสนใจแม่ก็ไม่เอาเลย เมื่อ 20 ปี เขาให้วันละ 2,000 บาท ถ้าได้เล่นเป็นพระเอก มี 10 คิว ก็ได้ 20,000 แต่ถ้าไม่ได้เล่นเป็นพระเอก และให้ไปเล่นเป็นเด็กคนนึงในเรื่องซึ่งมีไม่กี่คิว แม่จะไม่รับงานให้เก้าเลย เพราะถ้าเป็นแบบนั้นไม่คุ้ม ถ้าเป็นแบบนั้น แม่ให้ลูกไปเรียนหนังสือดีกว่า เพราะเราไปขายของที่เปิดท้ายได้กำไรวันละ 1,000 ก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่ 

 

Sponsored Ad

 

    ตั้งแต่เด็กแม่ก้อยเลี้ยงเก้ามาแบบเพื่อน คุยกันได้ทุกเรื่อง สนิทกับลูกมาก แต่ก็มีช่วงที่ตีกันบ้าง โดยเฉพาะช่วงวัยรุ่น พอเราพูดอะไรไปบางครั้งเขาก็ไม่พอใจ

    เก้าได้เล่าต่อว่า มีครั้งนึงที่ทะเลาะกับแม่หนักสุด จนแม่งอนหนีออกจากบ้าน ขับรถไปเรื่อยๆ คนเดียว พอโทรไปถามว่าไปไหน แม่ก็บอกไปเรื่อย ๆ  

 

Sponsored Ad

 

    ด้วยความที่มีแม่คนเดียว เวลาที่แม่เจ็บปวด เวลาแม่เหนื่อย แม่ต้องการเราเป็นที่พึ่ง ก็เลยบอกแม่ว่า ขับรถดีดีนะ สบายใจก็รีบกลับบ้านนะ ที่พูดไปเพราะเราคิดว่าถ้าเขาสบายใจแล้ว เดี๋ยวเขาก็กลับมา พอกลับมาบ้านก็ไปหาอะไรกิน มาทำกับข้าวกัน นี่แหละคำว่า "ครอบครัว"

 

Sponsored Ad

 

    แม่ก้อยบอกว่า ไม่ว่าจะโกรธจะงอนหรือลูกแค่ไหน เราจะไม่ลืมความเป็นแม่ เรางอน เราไม่ยอมคุย ถึงเวลากินข้าวก็ต้องทำให้กิน ถึงเวลากิน ลูกก็ต้องกิน เราเป็นแม่มันเป็นหน้าที่ ไม่ใช่ว่าเราโกรธแล้วเราไม่ทำ เราโกรธแต่เรายังทำสิ่งนี้ให้เขาเห็นว่า ไม่เคยลืมนะถึงฉันจะโกรธแค่ไหนก็ตาม

    มีช่วงนึงความสัมพันธ์แม่ลูกสั่นคลอน เวลาพูดคุยกันก็จะปะทะกันตลอด ก็เลยให้ผู้จัดการคนเก่าไปเป็นคนกลาง แต่กลายเป็นว่าคนกลางทำพัง 

    เก้าบอกว่า ตอนนั้นทะเลาะกับแม่บ่อยมาก ตอนแรกไม่เชื่อว่าตัวเองโดนทำของ แต่ไปรู้เพราะว่าโดนผู้จัดการคนนั้นโกง ก็เลยอยู่ห่าง ๆ ทั้งที่อยู่บ้านเดียวกัน พอเขาออกจากบ้านไป แม่บ้านก็ไปเจอกับ รูปเก้ารูปแม่และรูปเขา มัดสายสิญจน์พร้อมมีหมากพลู ก็เลยเชื่อเลยว่าตัวเองโดนของ

 

Sponsored Ad

 

    แม่ก้อยพูดเสริมต่อว่า "ตอนนั้นตั้งสติแล้วก็พูดกับตัวเองว่าไม่เป็นไร เรื่องเงินเอาไว้ก่อน ดึงเก้ากลับมาก่อน" 

    นอกจากนี้แม่ก้อยได้บอกอีกว่า ตนไม่เคยห้ามเรื่องความรักของลูก ทำอะไรก็แล้วแต่ให้ถามใจตัวเอง แล้วก็มีสติ ไม่ว่าวันนี้จะเป็นยังไง วันข้างหน้าจะเป็นยังไง รักแท้อยู่ตรงนี้นะ (มือชี้ที่หน้าอกตัวเอง) และยังบอกอีกว่า แม่ก็เป็นซิงเกิ้ลมัมที่มีแฟนนะ ต้องขอบคุณพี่วีนะคะ เขาคือคนที่เขาช่วยดูแลเรามาช่วงเวลาหนึ่ง คือเราไม่ใช่ซิงเกิ้ลมัมที่สมบูรณ์แบบ ทุกคนเลือกได้ คือเราเลือกที่จะเข้าใจเขา แล้วเขาก็เข้าใจเรา

ที่มา : นิตยสารแพรว

บทความแนะนำ More +

บทความที่คุณอาจสนใจ