ภาพความน่ารักของ “คุณฟุ้งฟุ้ง” สุนัขทรงเลี้ยง ของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทำให้หลายคนประทับใจและเอ็นดูในความน่ารัก นอกจากนี้แล้ว “คุณฟุ้งฟุ้ง” ยังเป็นสุนัขฉลาดและแสนรู้มากๆ วันนี้เราจะนำประวัติของคุณฟุ้งฟุ้งมาให้เพื่อนๆได้รู้จักคุณฟุ้งฟุ้งมากยิ่งขึ้น

    หลายคนอาจจะไม่รู้ว่าแท้จริงแล้ว “คุณฟุ้งฟุ้ง” คือลูกของ “พล.อ.อ.ฟูฟู” และ “แนปปี้ หรือ แนตตี้” สุนัขพูเดิลเพศเมียของคุณ อัมภาพร พิสุทธิกุล โดยสัตวแพทย์พบว่าสุนัขเพศเมียตัวนี้มีลักษณะใกล้เคียงกับคุณฟูฟู จึงนำความกราบทูลพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว

    หลังจากนั้นจึงรับสั่งสอบถามเพื่อให้มาผสมกับคุณฟูฟู จนมีลูกสามตัว เป็นสุนัขเพศผู้ 2 ตัว คือ ฟุ้งฟุ้งกับเฟื่อง และเป็นสุนัขเพศเมีย 1 ตัวชื่อ ฟ้า

    หากพูดถึงคุณฟูฟู เดิมทีเป็นสุนัขของผู้เพาะพันธุ์สุนัขในตลาดนัดสวนจตุจักร โดย คุณฟูฟู เป็นสุนัขพันธุ์พูเดิลเพศผู้ เกิดเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2540 ที่ได้ถวายสุนัขนี้ขณะมีอายุหนึ่งเดือนแด่ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ เมื่อวันที่ 9 สิงหาคมปีเดียวกัน 

    ด้วยสุนัขตัวนี้มีลักษณะเด่นคือมีขนสีขาวแน่นและฟูฟ่อง จึงประทานชื่อว่า “ฟูฟู” แล้วนำไปบำรุงเลี้ยงที่พระตำหนักนนทบุรีระยะหนึ่ง โดยมิได้ใกล้ชิดคุณฟูฟูเท่าใด เนื่องด้วยมีสุนัขทรงเลี้ยงอยู่แล้วหลายตัว

    จนพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวมีพระเมตตาโปรดเกล้าฯ รับคุณฟูฟูเป็นสุนัขทรงเลี้ยง เมื่อคุณฟูฟูอายุได้สองเดือนจึงได้รับการฝึกสอนต่าง ๆ และสามารถเรียนรู้ได้รวดเร็วกว่าสุนัขตัวอื่น 

    คุณฟูฟู ปรากฏตัวต่อสาธารณชนในการประกวดสุนัขหลายรายการ เคยได้ตำแหน่งรางวัลชนะเลิศประเภทมิตรแท้ และรองชนะเลิศอันดับสองประเภทสวยงามตามสายพันธุ์ ในการเข้าประกวดงานวันเกษตรแห่งชาติ ประจำปี 2543 และในปี 2544 ก็ได้รางวัลชนะเลิศประเภทสวยงามและความสามารถพิเศษพร้อมกับรางวัลชนะเลิศประเภทขนสวยที่สุด โดยมิได้เปิดเผยว่าเป็นสุนัขทรงเลี้ยงแต่อย่างใด 

    ในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2549 คุณฟูฟูได้ปรากฏตัวในงานมหกรรมสัตว์เลี้ยงแห่งประเทศไทยที่จัดขึ้นในจ.นครปฐม และรับคำชื่นชมว่าเป็นสุนัขที่ “สวยสง่าและฉลาดหลักแหลมยิ่ง” ได้รับการแต่งตั้งให้มียศเป็น “พลอากาศเอก” ประจำกองทัพอากาศไทย และเป็นพลอากาศเอก ฟูฟู อย่างที่เรารู้จักกันทุกวันนี้