หนูน้อย วัย 10 ขวบ ใช้เวลาว่าง ทำงาน "ขายปลาทู" แบ่งเบาภาระพ่อแม่ จนมีเงินเก็บเป็นของตัวเอง

คอมเมนต์:

แค่อยากช่วยแบ่งเบาภาระพ่อแม่... เด็กดีที่ต้องชื่นชม!

        น่าชื่นชม! ด.ช.วัย 10 ขวบ ใช้เวลาว่าง ช่วยพ่อแม่ขายของ คัดเลือก แบกยกของ จนมีเงินเก็บเป็นของตัวเอง

        เป็นเรื่องราวน่าชื่นชม เมื่อเด็กอายุ 10 ขวบ ใช้เวลาว่างจากการเรียน ช่วงปิดเทอม และวันหยุดเสาร์ อาทิตย์ ช่วยพ่อแม่ขายของเป็นประจำด้วยความขยันขันแข็ง จนมีเงินเก็บเกือบ 30,000 บาท สามารถนำเงินนั้นไปซื้อของต่างๆ ที่อยากได้โดยไม่ต้องรบกวนเงินของพ่อแม่ แถมยังเป็นการแบ่งเบาภาระงานของพ่อแม่ได้ดีอีกด้วย

 

Sponsored Ad

 

        โดยหนุ่มน้อย คนนี้ชื่อว่า ด.ช.ชลกร ชาญชัยวัฒน์ อายุ 10 ขวบ มี คุณพ่อของน้องชื่อ คุณต๋อง-เสถียร ชาญชัยวัฒน์ วัย 48 ปี เล่าให้ฟังว่า เป็นอาชีพดั้งเดิมของครอบครัวทำอยู่ทางภาคใต้มาก่อน ภายหลังได้ภรรยาทางเหนือเลยย้ายมาทำที่จังหวัดแพร่ได้ราวๆ 12 ปีแล้ว นอกจากขายปลาทูแล้ว ยังมีธุรกิจอื่นๆ คือ ทำไส้กรอก และลูกชิ้น เป็นดีลเลอร์หาสินค้าส่งขายไปยังต่างประเทศด้วย รวมทั้งนำเข้าอาหารทะเลแห้ง เช่น หมึกแห้ง กุ้งแห้ง ส่วนน้องชลกรนั้น เข้ามาช่วยงานตั้งแต่ 7 ขวบ

        “น้องเข้ามาช่วยงานเพราะเห็นแม่และน้าทำงานหนักช่วงเดือนตุลาคม ถึงธันวาคม ปลาทูจะขายดีมาก เลยอยากแบ่งเบาภาระ ช่วงนั้นมีเวลาว่างจึงมาช่วยทำ ทำแล้วชอบ จากนั้นพอมีวันหยุด น้องจะเข้ามาช่วยเรื่อยๆ เต็มวัน ได้ค่าเหนื่อยก็นำไปเก็บเป็นเงินออม ตอนนี้มีเงินเก็บอยู่ราวๆ สามหมื่นบาทแล้ว”

 

Sponsored Ad

 

        ปัจจุบันน้องชลกรเรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 คุณพ่อเล่าถึงการทำงานของน้องให้ฟังว่า ช่วยยกเข่ง ชักครีบปลา ล้างปลา ช่วยเล็กช่วยน้อยตามกำลัง

        “เพราะมีใจรักน้องจะไปช่วยเฝ้าหน้าร้านที่ตลาดใกล้บ้าน ขายเอง ทอนเงินเอง เรียกลูกค้าเอง ทำบัญชีเอง บางวันรับปลาจากบ้านไป 100 เข่ง ให้กำไรน้องเข่งละ 5 บาท ขายหมด 100 เข่ง น้องได้กำไรส่วนตัวเกือบ 500 อาทิตย์นี้ขายหมด อาทิตย์ต่อไปน้องจะขอเพิ่ม เพราะอยากเก็บเงินซื้อของที่อยากได้ และด้วยบุคลิกน่ารัก มีความเป็นกันเองทำให้ลูกค้าเข้าร้านอยู่เป็นระยะ แวะมาซื้อของ มาพูดคุยกับน้องไม่ขาด”

 

Sponsored Ad

 

        คุณต๋อง ยังบอกอีกว่า ช่วงนี้ห่วงลูกเป็นพิเศษ เพื่อนๆ หลายคนมีโทรศัพท์ เล่นเกมกัน ตนไม่อยากให้ลูกติดโทรศัพท์ จึงหากิจกรรมให้ทำคือการขายของ โดยหลังเรียนจบได้ปูทางให้น้องชลกรไว้คือ มองโรงเรียนที่มาเลเซียไว้ให้เรียนต่อ หวังให้ได้ภาษา

 

Sponsored Ad

 

        สำหรับแบรนด์ ปลาทูดีดี ที่น้องชลกรขายนั้น คุณพ่อบอกว่า เมื่อได้รับปลาสดๆ มาแล้ว จะนำมาแปรรูป โดยการชักไส้ ชักครีบ นำไปทำความสะอาด จากนั้นนำไปต้ม ถ้าใส่เกลือเยอะ รสชาติจัดคนทางเหนือไม่ชอบ ดังนั้นต้องต้มในน้ำเกลือพอดี เพราะปลามีความเค็มอยู่ในตัวอยู่แล้ว ไม่ต้องใส่เกลือมาก รวมกระบวนการเบ็ดเสร็จก่อนวางจำหน่ายหน้าร้านอยู่ราวๆ  4 ชั่วโมง

        “เมื่อก่อนทำวันละ 500-600 กิโล ลูกน้องเต็มบ้าน ตอนนี้ทำน้อยลงเหลือ 100 กิโล เพราะเราเอาคุณภาพมากกว่าปริมาณ สดใหม่ทุกวัน ตั้งแต่มีเทคโนโลยี พวกเฟซบุ๊ก ไลน์ ทำให้เรารู้ออร์เดอร์ล่วงหน้า ลูกค้าจะไลน์มาสั่งว่าเอาปลาเท่าไหร่ ทำให้เรากะได้ถูก ไม่มีปลาค้างคืน”

 

Sponsored Ad

 

        ถามถึงเคล็ดลับการเลือกปลาทูมาขาย คุณต๋อง บอกว่า ปลาทูนั้นมีหลายไซซ์ หากเป็นตัวเล็กจะได้จำนวนเยอะ สามารถเฉลี่ยขายได้ เช่น ขายคู่ละ 20 บาท อย่างแบรนด์ ปลาทูดีดี ของตน นำมาจากสงขลา ชุมพร ประจวบคีรีขันธ์ มหาชัย นำเข้าจากอินเดีย ปากีสถาน เหตุที่นำเข้าเพราะปลานอกจะมีขนาดใหญ่กว่า เนื้อแน่น ตัวอวบ ที่สำคัญ การขนส่งสะดวกสบายกว่า จำนวนปลาที่นำมาขายเดือนละประมาณ 3-4 ตัน

        “หากลูกค้าที่มาซื้อดูว่าตัวไหนสดไม่สด ให้ดูที่ท้อง ถ้าไม่สดนำมานึ่งท้องจะเปื่อย แตก อีกอย่างให้ดูที่ตา ถ้าตาไม่มีวุ้นนั่นคือไม่สด”

 

Sponsored Ad

 

        ส่วนการจำหน่ายนั้น นอกจากน้องชลกรจะขายหน้าร้านที่ตลาดกองเก่า ตลาดนัดที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดแพร่แล้ว แบรนด์ปลาทูดีดี ยังขายส่งให้กับพ่อค้าแม่ค้าในตลาดด้วย

        ก่อนทิ้งท้ายว่า “ผมพูดกับแม่น้องเสมอว่า ถ้าส่งลูกเรียนปริญญาใช้เงิน 4 ล้าน แต่ถ้านำเงินล้านมาให้ลูกทำธุรกิจ ก็เจ๊งในล้านเดียว แต่ได้ประสบการณ์เยอะกว่าในห้องเรียน เมื่อเราเห็นลูกชอบค้าขาย เราก็สนับสนุน ฟังความเห็นของลูก น้องแนะนำอะไรดีๆ เราก็นำมาขาย”

        สามารถติดตามข้อมูลได้ที่ เฟซบุ๊ก ปลาทู ดีดี โทรศัพท์  081-531-7557

ข้อมูลและภาพ จาก sentangsedtee

บทความที่คุณอาจสนใจ