"พี่ทอง" จากแมวจร นอนเฝ้าของกลาง สู่ลูกรักสารวัตร ฉายา "แมวหล่อพ่อมียศ" แห่งสภ.บางปะอิน
คอมเมนต์:
วันนี้เราจะพาทุกคนไปรู้จักกับ "พี่ทอง" อดีตเป็นแมวจรที่สามารถพัฒนาตัวเองจนได้เข้าไปอยู่ในสถานีตำรวจ ใหญ่โตจนพี่ ๆ ตำรวจยังต้องยอม
ในอดีตแล้ว พี่น้องเป็นแมวจรที่อาศัยอยู่บริเวณ สภ.บางปะอิน เรียกได้ว่าพี่ทองเป็นแมวขาใหญ่ของที่นั่นเลยก็ว่าได้ พี่ทองมักจะมีเรื่องกับแมวจรตัวอื่นอยู่เป็นประจำ สมัยก่อนพี่ทองชอบเฝ้ารถของกลาง จนได้ฉายาว่า "แมวเฝ้ารถของกลาง"
Sponsored Ad
กระทั่งเมื่อเดือนมีนาคมปีที่ผ่านมา สารวัตรสอบสวนได้ย้ายมาประจำที่ สภ.บางปะอิน และเมื่อเห็นพี่ทองก็เกิดความเอ็นดู จึงคอยให้ข้าวให้น้ำพี่ทองทุกวัน แถมยังใจดีพาพี่ทองไปทำหมันมาแล้วเรียบร้อย
แต่การทำหมันพี่ทองไม่ได้ราบรื่นอย่างที่คิด เพราะพี่ทองมีแผลงติดเชื้ออีกทั้งยังป่วยเป็นหวัดแมวอีก ทำให้ตอนนั้นพี่ทองต้องแอดมิทเป็นเวลา 2 สัปดาห์ จนในที่สุดอาการของพี่ทองก็ค่อย ๆ ดีขึ้น และได้กลับไปพักฟื้นที่ สภ.บางปะอิน จนหายดีแล้ว
Sponsored Ad
แต่หลังจากนั้นพี่ทองก็เปลี่ยนไป.. จากแมวที่เคยเป็นขาใหญ่ ใจกล้า ใจนักเลง ชอบมีเรื่องกับแมวตัวอื่น กลับกลายเป็นแมวที่ไม่สู้ใครเลย แถมยังเรียบร้อยมาก
Sponsored Ad
เมื่อเห็นแบบนี้แล้วสารวัตรก็อดเป็นห่วงไม่ได้ เพราะถ้าพี่ทองยังต้องอยู่ที่เดิมก็อาจจะโดนแมวตัวอื่นมาชำระแค้นหรือรังแกเอาได้
สารวัตรเลยตัดสินใจพาพี่ทองกลับไปอยู่ที่บ้านตน ซึ่งหลังจากย้ายไปอยู่สถานที่ใหม่ พี่ทองกลับปรับตัวได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว
Sponsored Ad
พี่ทองเป็นแมวที่ฉลาดมาก รู้ที่นอน ที่กินของตัวเอง แถมไม่เคยทำลายข้าวของในบ้านเลยด้วย
Sponsored Ad
ปัจจุบันพี่ทองมีฉายาใหม่ว่า "แมวหล่อพ่อมียศ" พี่ทองติดสารวัตรมาก ๆ ไม่ว่าสารวัตรจะไปไหนพี่ทองก็จะเดินตามไปทุกที่
รวมถึงเวลาที่สารวัตรไปทำงาน พี่ทองก็ไปด้วยทุกวัน จนพี่ทองกลายเป็นขวัญใจของตำรวจทั้งสถานีไปเรียบร้อยแล้ว
Sponsored Ad
นอกจากนี้พี่ทองยังมีแฟนคลับอีกเป็นจำนวนมาก บางคนถึงขั้นลงทุนนั่งเครื่องบินไปหาพี่ทองเลยทีเดียว และทุกครั้งที่แฟนคลับไปหาพี่ทองก็มักจะมีของติดไม้ติดมือไปให้รวมถึงเงินด้วย
Sponsored Ad
เป็นที่มาของ "กองทุนพี่ทองช่วยเพื่อน" เพราะเงินที่ได้จากแฟนคลับพี่ทองก็ไม่ได้เอาไปใช้ทำอะไร จึงตัดสินใจเปิดบัญชีนี้เพื่อช่วยเหลือเพื่อน ๆ แมวและสุนัขจร ซึ่งทำแบบนี้มาเป็นเวลากว่า 2 ปีแล้ว โดยมีแมวและสุนัขที่ได้รับการช่วยเหลือแล้วกว่า 50 ตัว
.
.
.
.
ที่มา : เฟซบุ๊ก มะลิ กะปิ