สุนัขร้องเรียกเจ้านายไม่หยุด ไม่ยอมให้ใครเข้าใกล้ หลังถูกปล่อยไว้ในลานจอดรถเพียงลำพัง
คอมเมนต์:
การถูกผู้ที่คิดว่าเป็น "ครอบครัว" ทอดทิ้งนั้น หากไม่โดนด้วยตัวเอง คงไม่สามารถเข้าใจความสับสนและหวาดกลัวได้ แต่เจ้าสุนัขผู้น่าสงสารตัวนี้ สามารถรับรู้ได้อย่างเต็มอก หลังจากเจ้านายของมัน โยนมันเอาไว้กลางลานจอดรถแห่งหนึ่งอย่างไม่ใยดี
เว็บไซต์ต่างประเทศรายงานว่า มีผู้พบเห็นสุนัขตัวหนึ่ง อยู่ในอาการสับสนและหวาดกลัว หลังจากที่ถูกครอบครัวทิ้งไว้ในลานจอดรถของ Sam’s Club ในเมมฟิส รัฐเทนเนสซี หลายคนเดินผ่านสุนัขตัวนี้ด้วยความสงสารแต่ไม่รู้จะช่วยมันยังไง เพราะมันไม่ยอมให้ใครเข้ามาใกล้
Sponsored Ad
เจ้าตูบสีขาวหอนอย่างต่อเนื่อง นั่นทำให้ผู้คนรู้เลยว่ามันเสียใจมากแค่ไหนที่ถูกครอบครัวทิ้ง แม้จะปิดกั้นตัวเอง แต่ลึกๆ แล้ว มันคงต้องการความเห็นอกเห็นใจจากใครสักคนและพามันออกจากความทุกข์ทรมานนี้
โชคดีที่มีพลเมืองดีคนหนึ่งตัดสินใจให้โอกาสสุนัขตัวนี้ และมุ่งมั่นที่จะทำให้มันมีชีวิตที่ดีขึ้น
Sponsored Ad
คนคนนั้นคือ Mary Murphy จาก Arrow Dog Rescue โดยหลังจากที่ได้ยินเกี่ยวกับสุนัขหอนเพราะถูกทิ้ง เธอก็ขับรถไปหามันทันที
แต่การเอาเชือกคล้องคอเจ้าตูบนั้นแทบจะเป็นไม่ได้ เพราะมันไม่ยอมให้ใครแตะตัว Mary จึงกลับไปวางแผนช่วยเหลือใหม่
Sponsored Ad
เธอกลับมาอีกครั้งพร้อมสุนัขของเธอ และพักอยู่ที่ลานจอดรถดังกล่าวเป็นเวลา 3 วัน จนกระทั่งเจ้าตูบสีขาวรู้สึกสบายใจขึ้นและเริ่มเข้าใกล้สุนัขของ Mary
วันต่อมา Mary ก็สามารถพาเจ้าตูบไปยังศูนย์พักพิงได้ และได้ตั้งชื่อให้มันว่า Samantha
Sponsored Ad
อาสาสมัครเชื่อว่า Samantha มีโอกาสสูงในการหาบ้านใหม่ หากพวกเขาโพสต์เรื่องราวของมันในเฟซบุ๊ก แล้วมันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ เมื่อคลิปวิดีโอที่เจ้าตูบหอนอยู่ในลานจอดรถหลังจากถูกครอบครัวทิ้ง ถูกเผยแพร่ออกไป ก็มีคนจำนวนมากติดต่อเข้ามายังศูนย์พักพิง
Sponsored Ad
เพียงไม่นาน Samantha ก็ถูกรับเลี้ยงโดยครอบครัวใจดี ซึ่งเป็นครอบครัวที่คอยให้การช่วยเหลือมันในการรับมือกับความเจ็บปวดทางใจที่ผ่านมา
ตอนนี้ครอบครัวใหม่ยังคงพยายามอย่างต่อเนื่องในการทำให้ Samantha กลับมาเชื่อใจมนุษย์อีกครั้ง ถึงจะกลัวอยู่บ้าง แต่เจ้าตูบก็มีความสุขกับการได้รับความรักและมันซาบซึ้งใจที่ทุกคนอดทนและอยู่เคียงข้างมันเสมอ
ขอบคุณที่ยังมีคนใจดีไม่มองผ่านมัน และขออวยพรให้เจ้าตูบได้พบกับครอบครัวที่จะรักและดูแลมันตลอดไปค่ะ
ที่มา : weloveanimals