ภาพของ มินดี้ และ พีนัท สองน้องหมาคอร์กี้ที่นั่งอยู่บนเครื่องบินชั้นธุรกิจ ของสายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์ ได้กลายเป็นที่สนใจและพูดถึงอย่างมากในหมู่ชาวเน็ต ล่าสุดเผยเหตุผลเบื้องหลังนำสุนัขขึ้นเครื่องบินได้ เพราะทั้งคู่ไม่ใช่แค่สัตว์เลี้ยงธรรมดา

    เจ้าของงตูบทั้ง 2 ตัว ได้นำภาพของพวกมันมาเปิดเผยพร้อมบอกเล่าประสบการณ์เดินทางขึ้นเครื่องบินในแบบสุดหรู พร้อมกับเล่าความประทับใจว่าน้องหมาของพวกเขาได้รับการดูแลเป็นอย่างดี

    ซึ่งในหลายสายการบิน การนำสัตว์เลี้ยงเดินทางไปด้วยนั้นเป็นเรื่องยาก ต้องพิจารณาถึงเงื่อนไขต่าง ๆ ของสายการบิน แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาสำหรับคอร์กี้ 2 ตัวนี้ โดยพวกมันเดินทางในไฟลต์ยาว 17 ชั่วโมง จากซานฟรานซิสโก สหรัฐฯ มายังภูเก็ต ประเทศไทย โดยมีการแวะพักเครื่องที่สิงคโปร์

    เจ้าของเล่าว่า พวกเขาต้องย้ายจากสหรัฐฯ มาอยู่ที่ประเทศไทยและไม่อาจทิ้งพวกมันเอาไว้ที่นั่นได้ จึงตัดสินใจพาพวกมันเดินทางมาด้วยกัน ก่อนเดินทางพวกเขาก็ได้เตรียมตัวล่วงหน้า ทั้งจองที่นั่งในจุดที่ใกล้ทางออกมากที่สุด รวมถึงจัดตารางการนอนและการกินของเจ้าตูบทั้งคู่นาน 1 เดือนเพื่อให้มั่นใจว่าพวกมันจะมีช่วงที่ต้องขับถ่ายน้อยที่สุด

    นอกจากนี้แล้วพวกเขายังได้เปิดเสียงเครื่องบินให้พวกมันฟังล่วงหน้า เพื่อไม่ให้เจ้าตูบตื่นตกใจเมื่อต้องขึ้นเครื่องบินจริง ๆ และขั้นตอนสุดท้ายก็คือการพามินดี้และพีนัทมายังสนามบิน เพื่อให้คุ้นเคยกับขั้นตอนการเช็กอิน

    ซึ่งสองตูบก็ได้พบเจ้ากับเจ้าหน้าที่ภาคพื้นดิน ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ให้การดูแลราวกับพวกมันเป็นเซเลบ ทั้งเข้ามาเซลฟี่ กอดพวกมันด้วยความเอ็นดู และแน่นอนว่าการได้เห็นคนนำสุนัขขึ้นเครื่องบินไปด้วยกันเช่นนี้ อาจเป็นภาพที่แปลกตาและนำมาสู่การตั้งคำถาม

    เจ้าของ เผยว่า จริง ๆ แล้วพวกมันเป็นสุนัขบริการที่สนับสนุนด้านอารมณ์ รวมถึงมีการทำเรื่องและเอกสารเพื่อขออนุญาตอย่างถูกต้องแล้วทุกอย่าง

    ขณะเดียวกัน ทางโฆษกของสายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์ ได้ออกมายืนยันว่า คอร์กี้เหล่านี้เป็นสุนัขบริการที่ให้การสนับสนุนด้านอารมณ์ ซึ่งมีใบรับรอง และไม่ได้มีการซื้อที่นั่งเพิ่มเติมสำหรับพวกมันโดยเฉพาะ

โดยตามข้อปฏิบัติของสายการบิน สัตว์บริการเหล่านี้จะได้รับอนุญาตให้ขึ้นเครื่องบินได้ ภายใต้เงื่อนไขดังนี้

    1. สุนัขเล็ก ต้องอยู่บนตักคนจูง

    2. สุนัขใหญ่ ต้องนั่งบนพื้นหน้าที่นั่งผู้โดยสาร

    3. ต้องไม่มีการจองที่นั่งของพวกมันเอง

    4. ต้องรัดสายจูง หรือเก็บไว้ในกรงสัตว์เลี้ยงตลอดเวลา

    6. ต้องไม่กีดขวางทางเดินหรือทางออกฉุกเฉิน

    แต่แล้วหลังจากเดินทางมาถึงประเทศไทยได้เพียงไม่กี่วัน ก็เกิดเรื่องน่าเศร้าขึ้น เมื่อเจ้าของได้โพสต์ผ่านทางเฟซบุ๊กว่า มินดี้ได้เดินทางกลับดาวหมาแล้วและการผจญภัยครั้งใหญ่ที่สุดและเป็นครั้งสุดท้ายของมินดี้ ก็คือการได้บินชั้นธุรกิจกับสายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์เพื่อเดินทางกลับบ้านสุดท้ายของเธอที่ภูเก็ต ประเทศไทย

ที่มา : says, Mindy the Corgi