การได้ช่วยชีวิตสัตว์จรจัดยากไร้เหมือนเป็นการทำบุญครั้งยิ่งใหญ่ เพราะช่วยให้หนึ่งชีวิตสิ้นหวัง กลับมามีพลังต่อสู้ได้อีกครั้ง อย่างเช่นเรื่องราวของหญิงชาวญี่ปุ่นรายหนึ่งที่บังเอิญเจอลูกแมวส้มที่นอนไร้เรี่ยวแรงอยู่ข้างถนน จึงรีบนำตัวน้องไปที่โรงพยาบาลสัตว์ทันที แต่กังวลเรื่องเงินค่ารักษาเนื่องจากมีราคาค่อนข้างแพง ก่อนจะได้เจอสาวใจบุญเข้ามาช่วยเรื่องค่ารักษาพยาบาล สร้างความอบอุ่นหัวใจไปตาม ๆ กัน 

    เจ้าของได้โพสต์ภาพแชทข้อความการสนทนาลงบนทวิตเตอร์ชื่อว่า Gma(@arowana_0101) ซึ่งได้บอกเล่าเหตุการณ์ขณะที่แม่ปั่นจักรยานออกไปซื้อของ และบังเอิญพบกับลูกแมวส้มนอนอยู่ข้างถนน จึงรีบหยุดปั่นและเข้าไปดูว่ามัน บาดเจ็บตรงไหนหรือไม่ ในใจคิดว่า "คงไม่ถูกรถชนใช่ไหม"

    ดูภายนอกไม่ได้มีบาดแผลอะไร แต่เสียงร้องของน้องนั้นดูแผ่วเบาและไร้เรี่ยวแรง ก่อนจะรีบอุ้มน้องใส่ตะกร้าหน้ารถ รีบพาไปโรงพยาบาลสัตว์ทันที

    เมื่อสัตวแพทย์ตรวจร่างกาย พบว่าน้องมีไข้สูงถึง 40.3 องศาเซลเซียส ซึ่งจัดว่าอันตรายที่สุด เมื่อเห็นแบบนี้ก็ยิ่งทำให้เธอปวดใจอย่างมาก

    แต่อย่างไรก็ตามน้องเป็นแมวจรจัด โรงพยาบาลมีข้อกำหนดไว้ว่าผู้พบจะต้องเซ็นชื่อและเป็นผู้รับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลทั้งหมด 

    เมื่อได้ยินแบบนั้นทำให้คุณแม่จึงเกิดอาการลังเลเล็กน้อยและถามกลับไปว่า ถ้าหากเธอไม่เซ็นจะเป็นอะไรไหม ทางโรงพยาบาลก็แจ้งกลับมาว่า การรักษาจะสิ้นสุดลงและแมวจะถูกส่งคืนให้ผู้ที่พบเห็นและพากลับไปคืนยังจุดที่พบแมว

    สุดท้ายคุณแม่ก็ทำใจทิ้งลูกแมวไม่ลง ยอมเซ็นชื่อและจ่ายค่ารักษาพยาบาลทั้งหมด แต่จู่ ๆ ผู้หญิงที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ได้ยินบนสนทนาของคุณแม่และพยาบาลทั้งหมด จึงได้หยิบยื่นน้ำใจมอบเงินจำนวน 10,000 เยน (ราว ๆ 3,000 บาท) เพื่อช่วยจ่ายเงินค่ารักษาพยาบาลลูกแมว ซึ่งคุณแม่ก็ได้กล่าวขอบคุณสำหรับน้ำใจที่เธอมอบให้ ก่อนจะตัดสินใจรับเลี้ยงลูกแมวส้มตัวนี้ในที่สุด

    ด้านชาวเน็ตที่ได้อ่านข้อความในแชทต่างก็อบอุ่นหัวใจไปตาม ๆ กัน ต่างยกย่องและชื่นชมที่เมตตาลูกแมวน้อยตาดำ ๆ นอกจากนี้ก็มีชาวเน็ตบางส่วนมองว่า ทางโรงพยาบาลใจร้ายเกินไป แต่ก็มีชาวเน็ตอีกจำนวนหนึ่งเข้าใจทางโรงพยาบาล เพราะโรงพยาบาลไม่ใช่องค์กรการกุศลและมีค่าใช้จ่ายต่าง ๆ อาทิเช่น ค่าจ้างบุคลากรทางการแพทย์ ค่ายา ค่าอุปกรณ์เครื่องมือทางการแพทย์ คงไม่สามารถแบกรับค่ารักษาสัตว์จรจัดได้ทุกตัวที่มาโรงพยาบาลได้

    อย่างไรก็ตาม เป็นเรื่องดีที่ลูกแมวได้รับการช่วยเหลือจนปลอดภัย แถมยังได้มีครอบครัวใหม่เป็นของตัวเอง ทั้งนี้เจ้าของโพสต์ก็ได้มาอัปเดตชีวิตล่าสุดที่ทำเอาชาวเน็ตต่างก็ตกใจและช็อกไปตาม ๆ กัน เพราะที่บ้านของเธอไม่ได้เลี้ยงแค่แมวแต่เลี้ยงน้องหมาและน้องแพะไว้อีกด้วย

"มีน้องใหม่เข้าบ้าน ไหนขอดูหน้าหน่อยยยย"

"หวัดดี...เจ้าตัวเล็ก"

พากันมามุงดูน้องเล็กของบ้าน

    ซึ่งตอนนี้อาการของลูกแมวก็กลับมาแข็งแรงปกติ ฉายแววความซน แถมยังเข้ากันได้ดีกับพี่ ๆ ในบ้านอีกด้วย

ที่มา : Twitter/arowana_0101   | เรียบเรียงโดย หมาแมวชวนกันยิ้ม