ภูมิแพ้เป็นโรคยอดฮิตที่พบได้ในทุกเพศทุกวัย ซึ่งสภาพร่างกายของแต่ละคนที่ไม่เหมือนกัน จึงทำให้มีอาการแพ้สิ่งต่าง ๆ ที่แตกต่างกันไป ซึ่งบางคนก็มองว่าสาเหตุของภูมิแพ้นั้นเกิดจากการเลี้ยงสุนัขหรือแมว เลยพยายามบอกให้เลิกเลี้ยงหรือนำน้องหมาน้องแมวไปให้คนอื่นเลี้ยงจะได้หาย 

    อย่างเช่นผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า Sarawut Sudsanit ที่ได้มาบอกเล่าเรื่องราวช่วงที่ตนเองเกิดอาการลมพิษหนักมาก ต้องกินยาภูมิแพ้ตลอด จนได้คุยกับเพื่อนที่เขาเป็นหนัก ๆ แล้ว แต่ตอนนี้อาการของเขาดีขึ้นแล้ว 

    เพื่อนก็ได้สอบถามถึงอาการต่าง ๆ ก่อนจะถามว่าที่บ้านเลี้ยงหมาเลี้ยงแมวหรือป่าว ซึ่งเขาก็ถามกลับไปว่า เลี้ยงหมาแมวเกี่ยวอะไรกับลมพิษ อีกอย่างตนไม่ได้แพ้ขนแมว 

    เพื่อนก็บอกว่าเกี่ยว "ให้ลองเลิกเลี้ยงดิหายเลย" ก่อนหน้านี้เพื่อนก็เคยเลี้ยงสุนัข แต่ตอนนี้เอาไปให้น้องสาวเลี้ยงแทน

    หนุ่มจึงตอบกลับเพื่อนไปว่า "จริงดิ งั้นตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไปก็จะเลิกแล้ว…เลิกคบกับมุงอ่ะไอสลัด"

    พร้อมทั้งติดแฮชแท็กว่า เลิกเลี้ยงมิ้วน้อยแล้วใครจะคอยทำให้เมียด่า 

    เชื่อว่าทาสแมวทั้งหลายก็ต้องทำแบบหนุ่มรายนี้ เลี้ยงเขามาตั้งแต่ยังเล็ก จะให้เลิกเลี้ยงกันง่าย ๆ อย่างที่ใครเขาพูดกันมันทำไม่ได้หรอก 

    นอกจากนี้แพทย์ยังเคยออกมายืนยันว่า ขนน้องหมาน้องแมวไม่เข้าปอด เลิกเชื่อแบบผิด ๆ กันได้แล้ว และอาการแพ้ขนสัตว์ไม่ได้เกิดจากขนสัตว์โดยตรง หากเกิดจากสารก่อภูมิแพ้ซึ่งเป็นโปรตีน Can F1 และ Can F2ที่อยู่ในน้ำลายของสุนัข นอกจากสารก่อภูมิแพ้แล้ว ยังมีไรฝุ่นที่แฝงตัวอยู่ในขนสัตว์เลี้ยง สิ่งเหล่านี้ต่างหากที่เป็นตัวกระตุ้นให้เราเกิดภูมิแพ้

    ซึ่งมีวิธีการป้องกันภาวะภูมิแพ้ขนสัตว์มากมาย โดยที่ไม่ต้องนำพวกเขาไปปล่อยหรือเอาไปให้คนอื่นเลี้ยง เช่น 

    - ไม่ควรนำสัตว์เลี่ยงเข้าห้องนอน เนื่องจากสภาพแวดล้อมในห้องมีความเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดภูมิแพ้ได้ง่าย

    - ติดตั้งเครื่องฟอกอากาศภายในบ้าน เพื่อทำความสะอาดอากาศ และถ่ายเทได้สะดวก

    ล้างมือทุกครั้งหลังสัมผัสตัวสัตว์เลี้ยง

    - จัดบริเวณให้สัตว์เลี้ยงอยู่เป็นสัดส่วน โดยอาจจะให้อยู่ในกรงหรือกั้นคอก เพื่อลดจำนวนของสารก่อภูมิแพ้ในอากาศ

    - ทำความสะอาดบ้านอยู่เสมอ เพื่อป้องกันไรฝุ่น โดยการดูดฝุ่นตามซอกมุมต่างๆ ทั้งบริเวณพื้น โซฟา ผ้าปูที่นอน ประตู หน้าต่าง และถูบ้านด้วยน้ำยาที่มีส่วนผสมของยาฆ่าเชื้ออย่างสม่ำเสมอ และหมั่นทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์ภายในบ้านเป็นประจำ

ที่มา: Sarawut Sudsanit | ขอบคุณข้อมูลเพิ่มเติมจาก skinhospital