เรียกว่าเป็นความรักต่างสายพันธุ์ที่ทำเอาชาวเน็ตน้ำตาซึมไปตามๆกันเลยทีเดียว ระหว่างมิตรภาพของเจ้าหมาน้อย ร่ายกายไม่ค่อยแข็งแรงและลูกนกถูกทิ้ง โดยทั้งคู่แม้จะเกิดมาไม่สมบูรณ์แบบเต็มร้อย แต่ทั้งคู่ก็เป็นเพื่อนรักและคอยช่วยเหลือกันเสมอมา

  วันนี้เราจะพาทุกคนไปรู้จักกับ เจ้าเลิฟลี (Lovey) นกพิราบผู้ถูกแม่ทิ้งไปตั้งแต่ยังเล็ก และเจ้าอัลฟี่ (Alfie) ลูกสุนัขตัวน้อย ผู้เกิดมาในภาวะปากแหว่งเพดานโหว่ตั้งแต่เล็ก เพราะความที่ทั้งคู่หัวใจอ่อนแอ ทั้งคู่จึงเข้ากันได้อย่างไม่น่าเชื่อ 

    โดยทั้งคู่ได้มาเจอกันในมูลนิธิ Mia องค์กรกู้ภัยในเมืองโรเชสเตอร์ นิวยอร์ก ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรและอุทิศตนเพื่อช่วยเหลือและฟื้นฟูสัตว์พิการตั้งแต่เกิดและพิการทางร่างกาย 

    ทั้งนี้ โรเจอร์ (Sue Rogers) ผู้ก่อตั้งมูลนิธิ ได้รับโทรศัพท์ติดต่อจากชาวบ้าน เมื่อฤดูร้อนปีที่แล้ว ว่าให้ช่วยรับเลี้ยงลูกนกไร้แม่ไปดูแลได้หรือไม่ มันถูกพบโดยคนงานก่อสร้าง ที่ทางลาดลานจอดรถ และแม่ของมันก็ไม่กลับมารับอีกเลย

    ก่อนที่ โรเจอร์ จะตัดสินใจรับลูกนกกำพร้าตัวนั้นมาดูแล เขาคิดว่ามันน่าจะเป็นกพิราบและได้ตั้งชื่อให้มันว่า เลิฟลี (Lovey) งานนี้เขาหวังว่าจะเลี้ยงดูเจ้านกน้อยไปเรื่อยๆ จนกว่าน้องจะสามารถกินและบินได้เอง เขาคิดไว้เสมอว่ามันจะกลับสู่ป่า ไปมีชีวิตอิสระที่ควรจะเป็นเข้าสักวัน เมื่อเขาลองปล่อยเจ้านกให้บินไป แต่สุดท้ายเจ้านกก็บินกลับมาอยู่ที่ดาดฟ้าบ้านของเขาเสมอ ทำเอาเขาแปลกใจเป็นอย่างมาก

    ก่อนที่เจ้านกจะพบกับเจ้าหมาน้อยอัลฟี่ ซึ่งเจ้าหมาน้อยนั้นเป็นลูกหมาวัย 8 สัปดาห์ แต่มีขนาดตัวเท่ากับลูกหมาแรกเกิด มันมีภาวะปากแหว่งเพดานโหว่ ทั้งนี้จากประสบการณ์ของโรเจอร์บอกเขาว่าเจ้าหมาไม่ค่อยแข็งแรง มันอาจจะโตมาด้วยภาวะโพรงสมองคั่งน้ำและอาจจะป่วยเป็นโรคหัวใจด้วย

    ก่อนที่ทั้งคู่จะถูกชะตากัน เริ่มทำความรู้จักและเล่นด้วยกันเรื่อยมา โรเจอร์พยายามจับตาดูทั้งคู่อย่างใกล้ชิด พร้อมกับดูแลสัตว์ทุกตัวในมูลนิธิเป็นอย่างดี จนเจ้าหมาเริ่มแข็งแรงขึ้นเรื่อยๆ แต่น้องหมาตัวเล็กมากๆโดยน้ำหนักตัวของน้องอยู่ที่ 420 กรัมเท่านั้น ซึ่งตัวเล็กมาก หากจะเล่นกับสุนัขตัวอื่นๆในบ้านก็กลัวจะเป็นอันตรายได้ จึงให้เล่นกับพี่นกแล้วกัน

    โดยทั้งคู่มีลักษณะคล้ายๆกันหลายอย่าง ทั้งขนาดตัวที่เล็ก แถมสีขนยังค่อนข้างจะใกล้เคียงกันอีกด้วย สมเป็นเพื่อนรักกันจริงๆ งานนี้แม้ทั้งคู่จะคุยกันคนละภาษา แต่มันก็สื่อภาษากายและภาษาพิเศษด้วยใจที่อ่อนโยนหากัน 

    ทั้งนี้เจ้าหมาก็มักจะพาเจ้านกเดินทัวร์รอบบ้านอีกด้วย งานนี้ไม่มีใครต้องเหงาอีกต่อไปแล้ว แต่ทางโรเจอร์เองก็หวังว่าอยากให้เจ้าเลิฟลีบินกลับป่าอยู่ดี เพื่อชีวิตอสระที่มันต้องการ แต่งานนี้หากเจ้านกไม่ไปยืนยันจะอยู่กับเจ้าหมาน้อยอัลฟี่หรือไม่ก็ต้องดูกันต่อไป

.

ชมคลิป

คลิปเปิดไม่ออก >>>>> กดตรงนี้ คลิ๊ก !!!! <<<<<

ที่มา : thedodo