"หนุ่มนักดำ" บังเอิญหันไปเห็น "ลูกแมวน้อย" ลอยคอในทะเล รีบลงไปช่วย หาบ้านให้อยู่หลายวัน สุดท้ายรับเลี้ยงเอาไว้เอง

คอมเมนต์:

อ้อห้อยยย รอดแล้วนะลูก ~

    ใครจะไปคิดในท้องทะเลอันกว้างไกล จะพบกับน้องแมว ที่กำลังลอยคอ เพื่อขอความช่วยเหลือจากมนุษย์ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าตกใจเป็นอย่างมาก เพราะปกติแล้วเราจะไม่เจอแมวอยู่ในทะเล...

    การพบกันโดยบังเอิญในครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจาก คุณไปร์และเพื่อนนักดำน้ำ ต้องไปช่วยเหลือเจ้าแมวน้อยที่กำลังลอยอยู่กลางทะเล แล้วมาเกาะอยู่ที่ท้ายเรือ โดยไม่มีใครรู้ว่ามันมาจากไหน และอยู่ในทะเลได้ยังไง...

 

Sponsored Ad

 

    ทุกคนที่เห็นต่างก็ตกใจเป็นอย่างมาก จึงรีบนำตัวมันขึ้นมาบนเรือ และหาอาหารให้กิน จากนั้นก็ห่อตัวมันอย่างดี เพื่อให้มันปลอดภัยมากที่สุด แต่ก็มีปัญหาเพิ่มขึ้น เพราะหลังจากนี้ไม่รู้ว่าจะเอามันไปไว้ที่ไหน 

 

Sponsored Ad

 

    คุณไปร์ ได้โพสต์ลงในกลุ่มทาสแมว 4.0 เพื่อขอความช่วยเหลือจากชาวเน็ต เพราะตนเองนั้นไม่สามารถรับน้องมาเลี้ยง เนื่องจากต้องทำงานบนเรือแทบตลอดเวลา และเกรงว่ามันจะไม่ปลอดภัย หากต้องนำมาเลี้ยงไว้บนเรือ พิกัดตอนนี้อยู่ที่ ท่าเรือปากปารา อำเภอละงู จังหวัดสตูล

    แต่ด้วยสถานการณ์ในปัจจุบันยังไม่ดีขึ้น ทำให้ผู้คนที่ต้องการช่วยเหลือ ไม่สามารถไปรับตัว หรือเดินทางไปไหนมาได้ตามปกติ ทำให้สุดท้าย คุณไปร์จึงออกมาขอโทษ และบอกว่าจะรับเลี้ยงน้องแมวตัวนี้เอาไว้เอง ซึ่งจะพามันกลับไปไว้ที่บ้านของพ่อแม่ที่จังหวัดอยุธยา และที่สำคัญเขาต้องวนเวียนไปทำงานในหลายจังหวัดในภาคใต้ จึงไม่สะดวกเลี้ยงเอง 

 

Sponsored Ad

 

    คุณไปร์ยังออกมาอัปเดตข้อมูลให้ชาวเน็ตในกลุ่มฟังอีกด้วยว่า ตอนนี้ได้ตั้งชื่อให้น้องแมวตัวนี้แล้ว โดยชื่อได้จากสถานที่ที่ได้บังเอิญเจอกันนั่นก็คือทะเล ดังนั้น เขาจึงตั้งชื่อมันว่า เจ้าทะเล โดยหวังว่ามันจะมีชีวิตที่ยืนยาวได้เหมือนกับท้องทะเล...

 

Sponsored Ad

 

    คุณไปร์เองก็ยังบอกอีกว่า ตอนนี้กำลังขับรถกลับบ้านพ่อแม่ที่อยุธยา น้องแมวก็เลี้ยงง่าย เพราะหลับตอนทาง อาจเป็นเพราะต้องเจอศึกหนักเมื่อวันก่อน แม้ว่าตอนนี้จะได้บ้านใหม่แล้ว แต่ก็ไม่มีล่วงรู้เลยว่า ความจริงแล้วมันไปอยู่ในทะเลได้ยังไง... มันอาจจะตกเรือ หรือใครนำมันไปปล่อยเอาไว้..

ซึ่งปัจจุบันน้องถึงบ้านที่อยุธยาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และกลายเป็นสมาชิกตัวป่วน ตัวที่ 6 ของบ้าน

จากโพสต์ต้นฉบับ

โพสต์ที่อัปเดตข้อมูล

ที่มา : Peerapong Soontornsuk

บทความแนะนำ More +

บทความที่คุณอาจสนใจ